รีวิวหนัง Ballerina ร่ายระบำฆ่า (2023)

Ballerlina เป็นภาพยนตร์ออริจินัลของ Netflix ที่ได้ ผู้กำกับอีชุงฮยอน เจ้าของผลงาน The Call (2020) มาเขียนบทและกำกับเบ็ดเสร็จเช่นเคย เที่ยวนี้เขามาในแนว
Ballerlina เป็นภาพยนตร์ออริจินัลของ Netflix ที่ได้ ผู้กำกับอีชุงฮยอน เจ้าของผลงาน The Call (2020) มาเขียนบทและกำกับเบ็ดเสร็จเช่นเคย เที่ยวนี้เขามาในแนวงานรุนแรงติดเรตผู้ชม 18+ ที่เน้นแอ็คชั่นทริลเลอร์ ชวนเชียร์ชวนลุ้นไปกับตัวเอกที่โหดเดือดเลือดสาดเมื่อมุ่งมั่นภารกิจล้างแค้นคนชั่วอาชญากรสังคมให้ฉิบหายวายวอดถึงที่สุด เสน่ห์ของการใช้ตัวเอกผู้หญิงชูโรง และยังคงเป็น จอนจงซอ นักแสดงนำเดิมจาก The Call เป็นการแคสติ้งที่ลงตัวมาก ด้วยทั้งคาแรคเตอร์มีเสน่ห์เท่ๆและลีลาคิวบู๊ที่ดุเดือดถึงใจ ไร้ความปราณี

เรื่องย่อ Ballerina ร่ายระบำฆ่า (2023)

จุดเริ่มต้นที่เกิดจาก นักบัลเล่ต์สาวผู้สดใส มินฮี (รับบทโดย พัคยูริม) ถูกล่อลวง ใช้ยา คุกคามทางเพศ และข่มขู่กรรโชกด้วยคลิปอนาจาร หาทางออกชีวิตไม่ได้จึงฆ่าตัวตาย แต่ได้ทิ้งโน้ตไว้ให้เพื่อนรักคนเดียวของเธอคือ อ๊กจู (รับบทโดย จอนจงซอ) ให้ช่วยแก้แค้นแทนให้ด้วย เธอเชื่อว่าอ๊กจูจะสามารถทำได้สำเร็จ เพราะอ๊กจูเป็นหญิงแกร่ง อาชีพบอดี้การ์ดระดับ VIP มีสกิลการต่อสู้ดีเยี่ยม
อ๊กจูจึงเริ่มต้นสืบหาชายคนนั้นทันที โดยเริ่มต้นด้วยเบาะแสที่มินฮีทิ้งไว้ให้คือ ชื่อ chef.choi 1004 พบว่าเป็นผู้ขายข้าวกล่องปลาดิบโอมากาเสะแบบสั่งออนไลน์ นัดส่งถึงมือ และเน้นย้ำเป็นพิเศษถึง ‘จำนวนโชยุ’ ที่ต้องการ จากนั้นเธอก็วางแผนติดตามความเคลื่อนไหว และวางกับดักจนได้โอกาสลงมือพิฆาต นายชเว (รับบทโดย คิมจีฮุน) ชายหนุ่มมาดดีมีเสน่ห์ขับรถหรู แม้ภารกิจจะยังไม่สำเร็จ แต่ก็ได้ฝากแผลแค้นที่ทำเขา ‘เสียหน้า’ ทั้งความหมายตามตัวอักษรและนัย
การได้ล่วงรู้ว่าเขาคืออาชญากรสังคมที่น่ารังเกียจ เพราะเกี่ยวข้องกับแก๊งค้ายาค้าผู้หญิง ผสมโรงกับผลงานส่วนตัวอันโฉดชั่ว ล่อลวงหญิงสาว คุกคามทางเพศ ทำให้อ๊กจูต้องลุยล่าอย่างเต็มแม็กซ์ให้ถึงที่สุด

ความรู้สึกหลังดู

ว่ากันที่เนื้อหนังในความยาวประมาณ 90 นาทีนั้น ค่อนข้างมีน้อย เรียบง่ายไม่ซับซ้อน เรียกว่าจับประเด็นของการแก้แค้นเป็นหลัก ที่มาที่ไปของเรื่องแวดล้อมอื่นๆก็เล่าแบบผิว ๆ หลวม ๆ แม้แต่ชื่อ Ballerina เองที่สะดุดเรียกความสงสัยได้เมื่อมาอยู่กับหนังแอ็คชั่น แต่เอาจริงก็ยังค่อนข้างผิวกับคอนเซ็ปต์เช่นกัน
ตัวละครในบทรอง ๆ ลงไปก็เข้ามาและจากไปอย่างไม่ได้มีมิติหรือมีความสลักสำคัญใดนัก เหมือนมาเพื่อช่วยประกอบฉากกันเฉยๆเลย แผนการและวิธีแก้แค้นจึงถูกนำมาขยายเล่าผ่านฉากต่อสู้ดุเดือด และดีกรีอาวุธก็จะรุนแรงขึ้น ดังที่ตัวละครกล่าวไว้ว่าต้องให้ถึงขั้น ‘ฉิบหายวายวอด’ คือได้ไปกันสุดทางอย่างวายวอดสะใจกันเลยเชียว
ทั้ง จอนจงซอ และ คิมจีฮุน ที่รับบทหลักในฉากแอ็คชั่นส่วนใหญ่ของเรื่อง ใช้ความสามารถได้ดีทีเดียว โหดดุดันสมจริง ฉากเลือดสาด ฉากเสียว ๆ ชวนปิดตาหรือร้องโอยตามก็มีบ้าง แต่หลายฉากก็ไม่ได้ให้เห็นโจ่งแจ้งอุจาด แต่ใช้ภาพเลี่ยงที่สร้างจินตนาการตามในหัวเราเองได้ สนุกชวนลุ้นชวนเชียร์ได้ (แบบว่าดีที่ไม่ต้องมีตำรวจเข้ามาแทรกแซงด้วย อิอิ) สำหรับ จอนจงซอ ได้มีโอกาสโชว์ฝีไม้ลายมือที่ดีวันดีคืน นอกจากมาดสาวเท่ๆแล้ว สีหน้าแววตาก็ยังถ่ายอดอารมณ์ได้ชวนอินมาก ส่วนคิมจีฮุน นั้น ถ้าใครติดใจลุคหล่อเซอร์และหุ่นบาดตาบาดใจ ก็มาชมได้ ไม่ผิดหวังแน่นอน
เพื่อเป็นการชดเชยความพื้น ๆ ของเนื้อหนัง ผู้กำกับจึงพิถีพิถันกับงานบู๊สวย ๆ และประดิษฐ์งาน Cinematography ให้ดูโดดเด่นมีเอกลักษณ์สะดุดตาสะดุดหูอย่างดี มุมกล้องแปลกตา เงยบ้างเสยบ้าง ท็อปวิวบ้าง แต่โดยรวมคือสวยอาร์ตดีมีสไตล์แทบทุกฉาก ใช้การจัดแสงย้อมสี ให้มีมิติและฟิลตื่นเต้นมากขึ้น ไม่เป็นโลว์คีย์มืดทึมเฉย ๆ เช่นปกติ งานซาวน์เพลงก็มีเสน่ห์อย่างมาก เรียกความสนใจได้ดี เทคนิคการเลย์สลับฉับ ๆ ระหว่างซาวน์ระทึกและความเงียบ ที่เข้ากับจังหวะของบท ทำให้เราเผลอหยุดหายใจตามบ่อยครั้ง
และยังมีนักแสดงสมทบหรือรับเชิญมาร่วมแจมกันคนละเล็กละน้อย อาทิ คิมมูยอล, จางยุนจู, คิมยองอ๊ก, จูฮยอน, ชินเซฮวี และ พัคฮยองซู

Trailer : Ballerina ร่ายระบำฆ่า (2023)

ติดตามบทความที่น่าสนใจเรื่องอื่นๆได้ที่ animekimi.net

About The Author

Scroll to Top